ประวัติ ของ อิซูมิ ชิกิบุ

ชีวิตช่วงต้น

อิซูมิ ชิกิบุ เป็นธิดาของโอเอะ โนะ มาซามูเนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเอจิเซ็ง กับมารดาไม่ปรากฏนาม ซึ่งเป็นบุตรสาวของไทระ โนะ ยาซูฮิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดเอ็ตจู แรกเริ่มอิซูมิเริ่มถวายตัวเข้าราชสำนักเกียวโต เธอมีเพื่อนชาย (บ้างว่าเป็นสามี) นามว่าโอโมโตมารุ ข้าราชบริพารของจักรพรรดินีโชโกะ ครั้น ค.ศ. 995 อิซูมิในวัย 20 ปี สมรสกับทาจิบานะ โนะ มิจิซาดะ ผู้ว่าราชการจังหวัดอิซูมิ อันเป็นที่มาของชื่อเธอ ทั้งสองมีธิดาด้วยกันคนหนึ่งชื่อ โคชิกิบุ โนะ ไนชิ เกิดใน ค.ศ. 997 และเป็นกวีเช่นมารดา ในขณะที่ยังคงสถานะภรรยาอยู่นั้น นางคบหาและลอบสังวาสกับเจ้าชายทาเมตากะ ดันโจะโนะมิยะ (弾正宮為尊親王, ค.ศ. 977-1002) พระราชโอรสลำดับที่สามในจักรพรรดิเรเซ จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว ทำให้สามีและครอบครัวตัดขาดจากอิซูมิ ลงเอยด้วยการหย่ากับทาจิบานะ แต่ไม่นานหลังจากนั้นอดีตสามีก็ถึงแก่กรรม[3]:4,7,9[4] หลังจากการหย่าไม่นานนัก เจ้าชายทาเมตากะก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ลง เองะโมโนงาตาริ (栄花物語) กล่าวไว้เป็นนัยเกี่ยวกับการประชวรนี้ว่า "เพราะหนีออกไปข้างนอกหลายต่อหลายคืนเป็นอาจิณ"[3]:8–9,11[4]

หลังเจ้าชายทาเมตากะสิ้นพระชนม์ อิซูมิก็ไปติดพันกับเจ้าชายอัตสึมิจิ (敦道親王, ค.ศ. 981–1007) พระอนุชาของเจ้าชายทาเมตากะ ปรากฏเรื่องราวนี้ในอนุทินกึ่งชีวประวัติของเธอในปีแรก อิซูมิอธิบายถึงแรงบันดาลใจในการเขียนไว้ว่า "เป็นการบันทึกบทกวีที่ทั้งสองส่งให้แก่กัน ซึ่งเขียนเพื่อเอาอกเอาใจเธอ" จากนั้นอิซูมิจึงย้ายไปพำนักในพระตำหนักของเจ้าชายอัตสึมิจิ ทั้งสองมักเกี้ยวพาราสีต่อธารกำนัล จนกระทั่งเจ้าชายอัตสึมิจิสิ้นพระชนม์ใน ค.ศ. 1007 เมื่อพระชันษาเพียง 27 ปี[3]:12–13[4] เรื่องราวระหว่างนางกับเจ้าชายทั้งสองปรากฏในเรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์เรื่อง เองะโมโนงาตาริ (栄花物語 "เรื่องราวแห่งความงดงาม") เมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 11 และ โอกางามิ (大鏡 "กระจกบานใหญ่") เมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11

ราว ค.ศ. 1009 อิซูมิเข้าเป็นนางสนองพระโอษฐ์ในจักรพรรดินีโชชิ ธิดาของฟูจิวาระ โนะ มิจินางะ และพระมเหสีในจักรพรรดิอิจิโจ[3]:14 ร่วมสมัยกับมูราซากิ ชิกิบุ, อากาโซเมะ เอมง และอิเซะ โนะ ทายู ซึ่งเป็นกวีมีชื่อเช่นกัน[3]:14

ปัจฉิมวัย

อิซูมิสมรสใหม่กับฟูจิวาระ โนะ ยาซูมาซะ (ค.ศ. 958–1036) นายทหารระดับบัญชาการผู้มีชื่อเสียงด้านความกล้าหาญ จากนั้นนางจึงทูลลาออกจากราชสำนักเพื่อติดตามสามีไปจังหวัดทังโงะ นางมีอายุยืนยาวกว่าบุตรสาว บทกวีสุดท้ายถูกเขียนใน ค.ศ. 1027 เองะโมโนงาตาริ ได้รวบรวมบทกวีนี้ไว้ด้วย กล่าวถึงการถวายเครื่องเพชรพลอยของยาซูมาซะถวายแก่พระพุทธรูป "เพื่อเป็นอนุสรณ์คำนึงถึงพระพันปีโยชิโกะ"[3][5][4]:13[2]

อิซูมิอุทิศตนแก่พระพุทธศาสนา ครองผ้ากาสาวพัสตร์ตลอดชีวิต ได้ฉายาทางธรรมว่า เซชินอินเซโฮนิ (誠心院専意法尼)[6]